เรอัลมาดริดวันนี้  ในแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายฤดูกาล 2022 ถึง 2023 รอบสองเริ่มขึ้น เรอัลมาดริดยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกา เล่นกับลิเวอร์พูลยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีกในบ้าน เกมครึ่งแรกทั้งสองทีมยังไม่มีอะไรสูสีกัน เกมครึ่งหลังเบนเซม่าทำประตูได้ จบเกมโดยเรอัลมาดริดเอาชนะลิเวอร์พูล 1 ต่อ 0 และผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 6 ต่อ 2

นาทีที่ 3 โครสรับบอลใกล้แดนกลาง แล้วส่งบอลไปตรงตัวเบนเซม่าซึ่งได้จังหวะบุกเดี่ยว เบนเซม่ายิงบอลไปหน้ากรอบเขตโทษด้วยเท้าขวา จากนั้นไลน์แมนส่งสัญญาณให้เบนเซม่าล้ำหน้าก่อน ในนาทีที่ 6 เรอัลมาดริดวันนี้ เตะมุมซ้ายไปที่จุดหลัง อาร์โนลด์บล็อกบอลไปถึงเขตโทษ และเบนเซม่ายิงด้วยเท้าซ้ายไปติดบล็อก

ในนาทีที่ 7 การ์บาฆัลส่งบอลคืนให้รูดิเกอร์ด้วยความแรงที่มากมากไปเล็กน้อย ซาลาห์คว้าบอลและจ่ายให้กับนูเญซที่รุกไปข้างหน้า กูร์ตัวส์รุกในเขตโทษเพื่อสักลูกยิงของนูเญซ ในนาทีที่ 8 บัลเบร์เด้รับบอลจากโครสที่ด้านบนสุดของเส้นโค้งของเขตโทษและยิงอย่างแรง แต่บอลพลาดเป้าหมายและเสียโอกาสในการโจมตี

ในนาทีที่ 9 วินิซิอุสจ่ายบอลในเขตโทษ และโครสจ่ายบอลจากด้านล่าง ไม่มีเพื่อนร่วมทีมอยู่ตรงกลางและมิลเนอร์ก็สกัดบอลได้ นาทีที่ 11 โครสได้ยิงไกลบนกรอบเขตโทษ บอลทำมุมตรงเกินไป อลิสซอนรับบอลไว้ได้อย่างง่ายดาย นาทีที่ 14 โครสจ่ายบอลยาวเข้าไปในกรอบเขตโทษ รูดิเกอร์โหม่งบอลจากกรอบเขตโทษด้านซ้ายเข้ากลาง ลูกวอลเลย์ของวินิซิอุสจากเขตโทษด้านขวาเล็กน้อยผู้รักษาประตูเซฟไว้ได้ ผลบอลมาดริด กับลิเวอร์พูลยังคง 0 ต่อ 0

นาทีที่ 18 โชต้ายิงลูกวอลเลย์จากลูกครอสของซาลาห์ที่กลางกรอบเขตโทษ แต่การเตะมีข้อบกพร่องและบอลพลาดประตูไป นาทีที่ 20 กามาแว็งก้าพาบอลมาหน้ากรอบเขตโทษ เขาปรับจังหวะเล็กน้อยแล้วยิงบอลไปชนคาน ในนาทีที่ 22 เรอัลมาดริดวันนี้ ส่งบอลยาวจากทางซ้าย กองหลังเคลียร์บอลแรกได้ ณ แต้มที่ 2 โมดริชยิงประตูโดยตรงหลังจากหยุดบอลด้วยหน้าอก แต่บอลลอยสูงข้ามคานออกไป

ในนาทีที่ 31 ฟาบินโญ่จ่ายบอลจากแดนหน้าเข้าไปในกรอบเขตโทษ นูเญซโหม่งเข้าประตูอย่างแรง แต่กูร์ตัวส์รับบอลได้ นาทีที่ 33 นูเญซวิ่งตัดมาทางขวาแนวรับของการ์บาฆัลแล้วยิง แต่กูร์ตัวส์ก็เซฟบอลไว้ได้อีกครั้ง นาทีที่ 35 นักเตะมาดริด อย่างวินิซิอุสรับบอลจากทางซ้ายแล้วเลี้ยงผ่านอาร์โนลด์ จากนั้นวิ่งตัดเข้าในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วยิงบอลเรียดไปที่เป้าหมาย แต่อลิสซอนรับบอลไว้ได้เช่นกัน

มาดริดล่าสุด ในเกมครึ่งหลังสู้กันอีกครั้งในการแข่งขันของ เรอัลมาดริดวันนี้

มาดริดล่าสุด ในนาทีที่ 52 วินิซิอุสได้โอกาสและไปถึงเขตโทษด้านซ้าย เขายิงบอลเหมือนลูกครอสผ่านผู้รักษาประตู แต่ฟานไดจ์คตามมาสกัดบอลได้ และเรอัลมาดริดเสียโอกาสในการทำประตูที่ยอดเยี่ยม ในนาทีที่ 53 บัลเบร์เด้ส่งบอลให้เบนเซม่าที่จ่ายบอลชิ่งให้ และบัลเบร์เด้โดนอลิสซอนขวางไว้คนเดียว จากนั้นบัลเบร์เด้ส่งกลับไปที่เบนเซม่าซึ่งยิงในทันที และผู้รักษาประตูก็สกัดบอลในทันที

นาทีที่ 57 ลิเวอร์พูลทำการปรับเปลี่ยนตัว นูเญซและโชต้าออกจากสนาม ฟีร์มีโน่และเอลเลียตลงสนาม ในนาทีที่ 63 โมดริชจ่ายบอลจากทางด้านซ้ายของกรอบเขตโทษ และลูกโหม่งของบัลเบร์เด้จากตรงกลางข้ามคานออกไป นาทีที่ 68 วินิซิอุสรับบอลทางด้านซ้ายของแดนหน้า เขาวิ่งตัดเข้าในเขตโทษและจ่ายบอลทแยงไปด้านขวา เบนเซม่ารับบอลและยิงลูกวอลเลย์ข้ามคานออกไป

ในนาทีที่ 73 ลิเวอร์พูลเปลี่ยนตัว แชมเบอร์เลนลงเล่นและมิลเนอร์ออกไปพัก นาทีที่ 77 การ์บาฆัลรับบอลทางด้านขวาของแดนหน้าแล้วยิงไกลโดยตรง แต่บอลพลาดประตูไปอย่างน่าตกใจ นาทีที่ 78 กามาแว็งก้าจ่ายบอลให้วินิซิอุสที่กำลังรุกเข้าเขตโทษ แต่เขาล้มในจังหวะยิงบอลและสกัดบอลไปเข้าทางเบนเซม่า เบนเซม่ายิงบอลเข้าประตูได้อย่างง่ายดาย เรอัลมาดริดวันนี้ เปิดสกอร์นำลิเวอร์พูล 1 ต่อ 0

ในนาทีที่ 82 เรอัลมาดริดเปลี่ยนตัวออก โมดริช วินิซิอุส เบนเซม่าและโครสออกไปพักผ่อน และเซบายอส อาเซนซิโอ โรดริโก้และชูอาเมนี่ลงเล่น ในนาทีที่ 92 วาซเกซส่งบอลจากทางด้านขวาของกรอบเขตโทษ โรดริโก้ตามขึ้นมายิงบอล และถูกบล็อก จากสโลว์โมชันเห็นว่าผู้เล่นลิเวอร์พูลต้องสงสัยว่าแฮนด์บอล ผู้ตัดสินไม่ให้จุดโทษหลังจากดูวิดีโอย้อนหลัง สุดท้ายจบเกมโดย เรอัลมาดริดวันนี้ เปิดบ้านเอาชนะลิเวอร์พูล 1 ต่อ 0

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม

• นักเตะเรอัลมาดริด เริ่มต้นด้วยรูปแบบ 4.3.3 กูร์ตัวส์ การ์บาฆัล มิลลิเตา รูดิเกอร์ นาโช่ กามาแว็งก้า โครส โมดริช บัลเบร์เด้ เบนเซม่า วินิซิอุส
• นักเตะลิเวอร์พูลเริ่มต้นด้วยรูปแบบ 4.3.3 อลิสซอน อาร์โนลด์ ฟานไดจ์ค โกนาเต้ โรเบิร์ตสัน ฟาบินโญ่ มิลเนอร์ คักโป ซาลาห์ โชต้า นูเญซ

เรอัลมาดริดล่าสุด ออกมาแสดงเคารพลิเวอร์พูลอย่างสูงหลังจบเกม

เรอัลมาดริดล่าสุด ในรอบที่สองของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในที่สุดลิเวอร์พูลก็สร้างปาฏิหาริย์ไม่ได้ พวกเขาแพ้ 0 ต่อ 1 ในฐานะแขกรับเชิญที่สนามเบร์นาเบว และพ่ายเรอัลมาดริดด้วยสกอร์รวม 2 ต่อ 6 อย่างสิ้นหวัง หลังจบเกม คล็อปป์ให้สัมภาษณ์อย่างขวานผ่าซากว่าทีมที่ถูกต้องจะผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ และเรอัลมาดริดทำได้ดีกว่าทั้งสองรอบ นอกจากนี้ พวกเขายังได้รับความเชื่อมั่นจากแชมเปียนส์ลีก 14 สมัยด้วย

สื่อต่างประเทศ liverpoolfanclub.com รายงานว่าในประวัติศาสตร์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เรอัลมาดริดคว้าแชมป์มาแล้ว 14 สมัย และรั้งอันดับ 1 ได้อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งได้รับฉายาราชาแชมเปียนส์ลีกอย่างเป็นทางการด้วย ลิเวอร์พูลกับบาเยิร์นครองอันดับ 3 ได้ 6 แชมป์ ทั้งสองทีมต้องการคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 7 เพื่อเสมอกับเอซีมิลาน เมื่อมองถึงตอนนี้ ลิเวอร์พูลไม่มีหวังคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้

ในการแข่งขันรอบแรก ลิเวอร์พูลนำ 2 ต่อ 0 ในบ้านไปก่อน แต่ถูก เรอัลมาดริดวันนี้ ไล่ถล่มตามหลัง 5 ประตูรวด และสุดท้ายเอาชนะลิเวอร์พูลด้วยสกอร์ 5 ต่อ 2 และเป็นโศกนาฏกรรมในบ้านที่เลวร้ายที่สุดเป็นอันดับ 2 ในแชมเปียนส์ลีก อีกทั้งยังมีสถิติเสียประตูในบ้านเท่ากันถึง 5 ประตูในแชมเปียนส์ลีก

ในพรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ลิเวอร์พูลพ่ายแพ้ให้กับทีมตกชั้นอย่างน่าผิดหวัง ในสภาพที่ซบเซาเช่นนี้ เราจะพูดถึงเกมเยือนกับ เรอัลมาดริดวันนี้ ได้อย่างไร ในครึ่งแรก ถ้าไม่มีคานประตูช่วยไว้ ลิเวอร์พูลจะตามหลังอยู่ 1 ประตู และกามาแว็งก้าก็ยิงบอลจากระยะไกลแล้วเด้งข้ามคานออกไป

ในครึ่งหลังลิเวอร์พูลยังคงไม่มีจุดสว่างแห่งความหวังใดๆ ในทางกลับกัน เรอัลมาดริดสร้างภัยคุกคามหลายครั้ง ครั้งแรกเป็นการยิงของบัลเบร์เด้ที่ถูกอลิสซอนสกัดกั้น จากนั้นเบนเซม่ารับบอลจากวินิซิอุสและทำประตูได้สำเร็จ ช่วยให้เรอัลมาดริดวันนี้ ชนะเกมนี้ด้วยสกอร์ 1 ต่อ 0 จากสถิติเผยว่าเบนเซม่าทำไป 7 ประตูและ 1 แอสซิสต์ใน 8 เกมที่พบลิเวอร์พูล และเป็นนักเตะที่ยิงลิเวอร์พูลมากที่สุดในแชมเปียนส์ลีก

เกมเหย้าโดนพลิกกลับมาแพ้ 2 ต่อ 5 และเกมเยือนพ่ายแพ้ไปอีก 0 ต่อ 1 ลิเวอร์พูลโดนถล่มยับเยิน 2 ต่อ 6 และถูกเรอัลมาดริดตกรอบ หลังจากจบเกมนี้เกิดสถิติมากมายเช่นกัน สถิติแรก ลิเวอร์พูลไม่ชนะ เรอัลมาดริดวันนี้ 11 เกมติดต่อกัน รวมถึงสถิติแพ้รวด 3 เกมล่าสุด สร้างสถิติไม่ชนะคู่แข่งทีมเดียวกันนานที่สุดในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

สถิติที่สอง สกอร์ 2 ต่อ 6 เป็นการเสียสกอร์รวมที่แย่ที่สุดในรอบน็อกเอาต์แชมเปียนส์ลีก ในประวัติศาสตร์ของทีมลิเวอร์พูล สถิติที่สาม การตกรอบโดยเรอัลมาดริดวันนี้ ในแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีติดต่อกัน รวมถึงการแพ้นัดชิงแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาล 2021 ถึง 2022

สถิติที่สี่ นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1992 ที่ลิเวอร์พูลเสียถึง 4 ประตูในการแข่งขันรอบน็อกเอาต์ยุโรป 2 รอบ สถิติที่ห้า หลังจากคล็อปป์เป็นโค้ชลิเวอร์พูล เขาตกรอบในศึกยุโรป 6 ครั้ง และคู่ต่อสู้ของเขาคือทีมจากสเปนทั้งหมด สถิติที่หก ลิเวอร์พูลสร้างโอกาสได้ไม่ดีนักในเกมนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบน็อกเอาต์แชมเปียนส์ลีกในรอบ 6 ฤดูกาลที่ผ่านมา

ข่าวมาดริด เผยว่าเป็นที่น่าสังเกตว่าหลังจบเกม เพลงของทีมลิเวอร์พูล You Never Walk Alone ถูกเล่นที่สนามกีฬาเบร์นาเบว และแฟนๆในที่เกิดเหตุก็ปรบมือ พฤติกรรมของเหล่าสาวกแห่งเรอัลมาดริดวันนี้ ได้รับการยกย่องจากแฟนๆว่าการเคารพคู่ต่อสู้คือการเคารพตัวเอง